การกำหนดช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่น
1การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ หากยึดตามหลักของการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ ก็จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นอยู่ทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก เพราะแสงอาทิตย์จะส่องเข้าสู่บ้านนกแอ่นได้ รูปแบบของช่องทางเข้า-ออก จึงควรอยู่ทางทิศเหนือและทิศใต้ แต่นี่ก็ไม่ใช่กฎเกณฑ์ข้อบังคับหากทิศเหนือและทิศใต้มีสิ่งกีดขวางทางเข้า-ออก เช่น มีตึกสูงบังอยู่ ด้านที่เป็นช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นควรมีพื้นที่ว่าง ไม่มีสิ่งกีดขวาง เพื่อให้นกแอ่นสามารถบินเล่นได้
2ขนาดของช่องทางเข้า ออกของบ้านนกแอ่น ขนาดช่องทางเข้า ออกของบ้านนกแอ่นควรมีขนาด 80x40เซนติเมตร สำหรับบ้านนกแอ่นใหม่ เพื่อให้นกแอ่นบินเข้า-ออกได้สะดวก และควรมีช่องทางเข้า-ออกเพียงช่องเดียว เพราะยิ่งมากช่อง แสงก็จะเข้าสู่ภายในบ้านนกแอ่นมากขึ้น ที่ปากทางเข้า-ออกจะเป็นที่ติดตั้งลำโพงเสียงเรียกนอก (Swiftlet external chirp) เสียงเรียกนอกเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการดึงดูดให้นกแอ่นเข้าสู่บ้านนกแอ่นใหม่
3มีพื้นที่สำหรับทำวงบินของนกแอ่น เมื่อนกแอ่นได้ยินเสียงเรียกที่ปากทางเข้าบ้านนกแอ่น นกแอ่นก็จาเริ่มทำการสำรวจโดยการบินวนเพื่อดูสภาพแวดล้อมภายนอกก่อน และตัดสินใจเข้าสำรวจภายในบ้านนกแอ่น
วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วิธีทำฮอร์โมนสำหรับบ้านนกแอ่น
สำหรับผู้ทำบ้านนกแอ่นที่กำลังกังวลว่านกแอ่นจาอยู่หรือไม่อยู่บ้าน กลัวกลัวแล้วก็กลัว จนอยากใช้ฮอร์โมน แต่ไม่รู้ว่าซื้อมาแล้วจาได้ผลหรือไม่ได้ผลและอยากรู้ว่าฮอร์โมนนี้มีส่วนผสมของอารายบ้าง มาคลายข้อสงสัยกันในบทความนี้ครับ ส่วนใหญ่แล้วฮอร์โมนที่ขายกันก็นำส่วนผสมที่มาจากความคุ้นเคยของนกแอ่นพวก รักนกแอ่นหรือเศษรังนกแอ่น ขี้นกแอ่น ไข่นกแอ่น ฯลฯ มาผสมกันแล้วผสมน้ำฉีดพ้นที่ไม้ตีรัง วิธีนี้คงจาช่วยประหยัดงบประมาณของผู้ทำบ้านนกแอ่นในการทำฮอร์โมนใช้เองครับ ขอให้นกแอ่นอาศัย ทำรังเยอะๆๆครับ
วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2552
การปรับแต่งเสียงเรียกนกแอ่น SWIFTLET SOUND MIXER

ปัจจุบันบ้านนกแอ่นมีมากขึ้น จึงมีการแข่งขันแย่งชิงนกใหม่มากขึ้น เสียงเรียกจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการดึงนกแอ่นเข้าสำรวจและอยู่อาศัย ดังจาเห็นจากเมื่อมีบ้านนกแอ่นหลังใหม่เปิดเสียงวันแรกจามีนกแอ่นบินวนและเข้าสำรวจบ้านหลังนั้น
วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
CCTV



ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่า ในระบบกล้องวงจรปิดจะประกอบไปด้วยอุปกรณ์หลักๆ 4 อย่างก็คือ
1. ตัวกล้อง (Camera) ที่มีหลากหลายรูปแบบแล้วแต่จุดประสงค์การใช้งานของท่าน ตัวอย่างเช่น กล้องมาตรฐาน (แบบทรงเหลี่ยม) กล้องโดม (ทรงกลมตัดครึ่ง) กล้องกันน้ำ กล้องอินฟราเรด กล้องไร้สาย กล้องสปีดโดม กล้องซ่อนขนาดเล็กหรือเลนส์รูเข็ม ฯลฯ ทำหน้าที่เป็นเสมือนดวงตาที่จะมองภาพในมุมที่เราต้องการเพื่อส่งมายังศูนย์กลางหรืออุปกรณ์รวมและจัดการสัญญาณภาพ
2. อุปกรณ์รวมและจัดการสัญญาณภาพ (Video Processor) เช่น สวิตเชอร์สลับภาพ ควอดเครื่องแบ่งภาพชนิดต่างๆ มัลติเพลกเซอร์ Capture Card DVR ฯลฯ ทำหน้าที่เป็นตัวศูนย์กลางที่รวมสัญญาณภาพจากกล้องทุกตัว เพื่อส่งสัญญาณภาพไปยังจอมอนิเตอร์ แสดงภาพสด (Display Live View) และส่งภาพไปยังอุปกรณ์บันทึกภาพชนิดต่างๆ
3. อุปกรณ์บันทึกภาพ (Recorder) ทำหน้าที่รับภาพจากอุปกรณ์จัดการสัญญาณภาพ เพื่อเขียนข้อมูลลงในเครื่องบันทึกชนิดต่างๆ เช่น เครื่องบันทึกเทป เครื่องบันทึกแบบฮาร์ดดิสก์ หรือเครื่องบันทึกแบบคอมพิวเตอร์ PC
4. จอมอนิเตอร์ (Monitor) จะใช้เป็นทีวีธรรมดา หรือจอมอนิเตอร์ที่ออกแบบมาใช้กับระบบโดยเฉพาะก็ได้ ซึ่งถ้าเราจะใช้ก็ต้องใช้ตัวแปลง AV to VGA ราคา1000บาทเราก็สามารถใช้จอมอนิเตอร์ที่มีอยู่แล้วนำมาใช้งานกับกล้องวงจรปิดได้เลยครับ
*ระบบการบันทึกแบบบันทึกเทป ไม่นิยมใช้กันแล้วในปัจจุบันในกรณีที่ท่านต้องการใช้งานกล้องเพียงตัวเดียว อุปกรณ์ที่ใช้ไม่จำเป็นต้องมี Video Processor ก็ได้ คือต่อสัญญาณจากกล้องโดยตรงเข้าสู่เครื่องบันทึกเทป และจากเครื่องบันทึกเทปสู่มอนิเตอร์เลยก็ได้ แต่หากใช้งานหลายกล้อง ระบบแบบนี้จะมีอุปกรณ์ที่แยกชิ้นกันทั้ง 4 ส่วน การบันทึกแบบนี้หากต้องการเก็บหลักฐานการบันทึกไว้นานๆ จำเป็นจะต้องมีม้วนเทปไว้จำนวนมากเพื่อเปลี่ยนตามระยะเวลาที่เนื้อเทปหมด
*ระบบการบันทึกด้วยเครื่องบันทึกภาพดิจิตอล (Stand-alone Digital Video Recorder – DVR)เครื่องบันทึกชนิดนี้จะรวมส่วนของ Video Processor (2) และ ส่วนบันทึก Recorder (3) ไว้ในเครื่องเดียวกัน โดยมากจะเป็นแบบมัลติเพลกเซอร์ มีจำนวนช่องสัญญาณ 4, 8 และ 16 ช่อง ตามความต้องการของผู้ใช้(เครื่องรุ่นใหม่ก็เป็นภาษาไทยแล้วและความละเอียดสูงเท่ากับคอมก็มีนะครับ น่าเล่น) และบันทึกภาพลงสู่ฮาร์ดดิสก์ ซึ่งชนิดและขนาดของฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ IDE-ATA ที่มีขายอยู่ตามร้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั่วไป ยิ่งขนาดความจุของฮาร์ดดิสก์มีมาก ก็จะยิ่งสามารถบันทึกได้ยาวนานยิ่งขึ้น การดูภาพจากเครื่องก็เพียงแค่ต่อมอนิเตอร์หรือทีวีเข้ากับตัวเครื่องเท่านั้น ขนาดของหน่วยความจำมีความสำคัญมาก ถ้าเราบันทึกภาพไปแล้วนำมาใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ก็เท่านั้น เราควรจะจะทึกภาพด้วยคุณภาพสูงไว้ก่อน โดยเพิ่มฮาร์ดดิสมากๆเพื่อจะได้ระยะเวลาที่ได้ตามความต้องการ
*ระบบการบันทึกด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer Based Advance DVR)ด้วยความสามารถของระบบปฏิบัติการ Windows และการที่ใช้ซอฟท์แวร์เป็นพื้นฐาน ทำให้ระบบการบันทึกด้วยคอมพิวเตอร์มีความหลากหลายของลูกเล่นและเทคนิคการใช้งานต่างๆ อีกทั้งยังรองรับการพัฒนาขีดความสามารถในอนาคต เรียกว่ารอวันโตตามเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน เพราะปัจจุบันมนุษย์และสังคมได้รับผลบุญ (รวมทั้งผลกรรม) จากการเติบโตของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่เปลี่ยนแปลงไป ระบบนี้จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับท่านที่มีขีดความสามารถในการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์สูงอยู่แล้ว รวมถึงผู้ที่ต้องการพึ่งพาประโยชน์จากขีดความสามารถของมัน ซึ่งมีให้มากกว่าระบบอื่นๆ แต่ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ชอบใช้คอมที่เก่ามาทำเป็นเครื่องบันทึก ทำให้เกิดอาการและปัญหาต่างๆขึ้น ผมแนะนำว่าควรจะใช้คอมเครื่องใหม่ดีกว่า เพราะเท่าที่ประกอบเครื่องเก่ากับการ์ดใหม่มันมักจะมีปัญหา(เครื่องเก่ากว่า2ปี2549ลงไป)
บันทึกเทป DVR (Stand Alone) Advance DVR / Capture Card + Computer
1. สื่อที่ใช้เก็บบันทึก ม้วนเทป E-180, E-240(ต้องเก็บม้วนเทปเป็นจำนวนมาก) Hard Disk 80 – 250 GB Hard Disk 80 – 1500 GB ขึ้นอยู่กับ Main board
1. สื่อที่ใช้เก็บบันทึก ม้วนเทป E-180, E-240(ต้องเก็บม้วนเทปเป็นจำนวนมาก) Hard Disk 80 – 250 GB Hard Disk 80 – 1500 GB ขึ้นอยู่กับ Main board
2. ระยะเวลาสูงสุดที่สามารถบันทึกได้ 12 / 24 / 168 ชั่วโมง แล้วแต่รุ่นของเครื่องบันทึก 16 – 1350 ชม. (FK-771)13 – 14815 ชม. (EDSR)บน Hard Disk 80 GB (ขึ้นกับความต่อเนื่องและความละเอียดที่ตั้งการใช้งานไว้) ยาวนานที่สุดเมื่อเลือกใช้ความต่อเนื่อง (frame rate) เท่าๆกันกับแบบบันทึกเทปและ DVR (Stand Alone)
3. ความละเอียดของภาพที่บันทึก ความละเอียดใกล้เคียงกับภาพจริง ขึ้นกับอุปกรณ์รวมจัดการสัญญาณภาพ 720 x 576 pixels 320 x 240, 384 x 288, 640 x 480, 768 x 576ขึ้นอยู่กับรุ่น
4. ความต่อเนื่องของภาพ 12 ชั่วโมง = 8 fps24 ชั่วโมง = 3 fps168 ชั่วโมง = 0.5 fps 1 – 25 fps (FK-771)0.1 – 50 FPS (EDSR-400) Max 15 – 400 FPSขึ้นอยู่กับรุ่น
5. ความสามารถในการต่อ Network ทำไม่ได้ ทำได้ในรุ่น EDSR โดยผ่าน LAN แต่อัตราการส่งผ่านข้อมูลต่ำกว่าคอมพิวเตอร์ ทำได้หลากหลายทั้ง LAN, Internet, ISDN, PSTN โดยอาศัยคุณสมบัติการเป็นคอมพิวเตอร์
6. การบันทึกเมื่อมีความเคลื่อนไหวของภาพ ทำไม่ได้ ทำได้ ทำได้โดยมีประสิทธิภาพดีกว่า DVR คือสามารถกำหนดความไวในการตรวจจับได้และกำหนดพื้นที่ที่ต้องการตรวจจับบนภาพได้สะดวก
7. การค้นดูภาพที่เก็บบันทึก ต้องค้นหาจากม้วนเทปของวันที่บันทึกไว้โดยวิธีกรอภาพและดูเวลาที่อยู่บนหน้าจอ โดยต้องหยุดการบันทึกเอาไว้ชั่วคราว เรียกดูโดยระบุวันที่และเวลาที่ต้องการค้นหาภาพได้ โดยต้องหยุดการบันทึกเอาไว้ชั่วคราว เรียกดูโดยระบุวันที่และค้นหาจากเวลาของแต่ละไฟล์ที่ระบุเรียงเอาไว้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องหยุดการบันทึก
8. ความชัดเจนเมื่อเล่นภาพเร็วเพื่อค้นหาภาพที่บันทึกไว้ มีเส้นรบกวนขณะค้นหาภาพแบบรวดเร็ว ไม่มีเส้นรบกวนแม้ขณะเล่นค้นหาภาพแบบรวดเร็ว สามารถเพิ่มหรือลดความเร็วได้ 32 เท่า (FK-77x) และ 600 เท่า (EDSR-Series) ไม่มีเส้นรบกวนแม้ขณะเล่นค้นหาภาพแบบรวดเร็ว สามารถเพิ่มหรือลดความเร็วได้ (มากน้อยขึ้นอยู่กับรุ่น)
9. ความคุ้นเคยของผู้ใช้งาน ใช้งานมานาน เป็นที่คุ้นเคยของผู้ใช้งานโดยทั่วไป ลักษณะการใช้งานคล้ายกันกับระบบเทปเดิม เป็นที่คุ้นเคยของผู้ใช้งานทั่วไป ผู้ใช้งานควรมีความรู้พื้นฐานในการใช้งานคอมพิวเตอร์อยู่บ้าง
10. การถ่ายโอนข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน ต้องเก็บด้วยม้วนเทปและเล่นกับเครื่องเล่นที่มีอัตราการบันทึกเดียวกันเท่านั้น สามารถสำรองภาพเหตุการณ์บางช่วงที่สำคัญเข้ากับเครื่องบันทึกเทปเดิมได้ หรือใช้ CF Card ในรุ่น EDSR-Series สามารถส่งออกข้อมูลลงสื่อความจุเช่น CD, Flash Drive ได้โดยเป็นไฟล์ .avi และสามารถหยุดเฟรมภาพบันทึกที่กำลังเล่นอยู่เพื่อเก็บเป็นภาพ .jpg หรือ พิมพ์ภาพได้
11. การเริ่มบันทึกเองโดยอัตโนมัติหลังสิ้นสุดไฟดับ ทำได้ (เฉพาะรุ่น 12 ชั่วโมงไม่มีฟังก์ชั่นตั้งเวลา ทำไม่ได้) ทำได้ ทำได้
12. ระดับราคา แพงที่สุดภายใต้ลักษณะการใช้งานเดียวกันกับ DVR และ Computer
ที่กล่าวข้างต้นเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ใช้ในการเปรียบเทียบเท่านั้นนะครับ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยลงไปอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Advance DVR / Capture Card + PC ซึ่งมีให้เลือกใช้หลากหลายตามความต้องการและงบประมาณที่มี ก็หวังว่าคงได้แนวทางในการตัดสินใจเลือกแบบใดแบบหนึ่งกันแล้วนะครับ เราจะแนะนำและให้การปรึกษาวิธีการติดตั้งต่างๆจนท่านสามรถติดตั้งเองได้ เพราะเรามีอุปกรณ์ครบทุกชนิด แล้วท่านจะจ่ายแพงกว่าทำใม?
วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
เสียงเรียกนกแอ่น SWIFTLET SOUND
วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
การเพิ่มความชื้นในบ้านนกแอ่น

วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552
ช่องทางเข้า-ออกแบบบล็อกแสง
.jpg)


การปรับกลิ่นในบ้านนกแอ่นใหม่



วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552
เคล็ดลับในบ้านนกแอ่นใหม่
1.เสียงเรียกนกแอ่น ต้องเลือกเสียงนกแอ่นที่ดีมีคุณภาพ
2.ลำโพงในบ้าน(ลำโพงทวิสเตอร์)ติดให้มากเท่าไหรยิ่งดี
3.ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้ได้
4.ใช้ขี้นกแอ่นโรยในบ้านหรือผสมน้ำสาดที่ผนัง
5.ไม้ตีรังเหมาะสม แข็งกลาง มีใย ไม่มีกลิ่น เซาะร่องเรียบร้อย
6.ไม่มีศัตรูรบกวนภายในบ้านนกแอ่น
7.
8.
9.
10.
ขอให้ทุกท่านโชคดีมีบ้านนกแอ่นที่ที่มีนกอาศัยอยู่มากมากและรังนกเยอะๆๆๆๆๆ
2.ลำโพงในบ้าน(ลำโพงทวิสเตอร์)ติดให้มากเท่าไหรยิ่งดี
3.ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้ได้
4.ใช้ขี้นกแอ่นโรยในบ้านหรือผสมน้ำสาดที่ผนัง
5.ไม้ตีรังเหมาะสม แข็งกลาง มีใย ไม่มีกลิ่น เซาะร่องเรียบร้อย
6.ไม่มีศัตรูรบกวนภายในบ้านนกแอ่น
7.
8.
9.
10.
ขอให้ทุกท่านโชคดีมีบ้านนกแอ่นที่ที่มีนกอาศัยอยู่มากมากและรังนกเยอะๆๆๆๆๆ
การระบายอากาศในบ้านนกแอ่น(Ventilation System)



ลำโพงเสียงเรียกใน




ลำโพง Tweeter ขนาดเล็ก เป็นลักษณะของลำโพงที่ใช้เพื่อเปิดเสียงเรียกใน ลำโพง tweeter นี้จะต้องติด condenser ด้วยเพื่อให้เสียงสดใสขึ้น การติดตั้งลำโพงเสียงเรียกใน ให้ติดตั้งกระจายทั่วบริเวณไม้ตีรัง ส่วนจำนวนลำโพงที่ติดตั้งก็ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ แต่มีข้อสังเกตที่แน่ชัดว่า นกแอ่นจะเลือกทำรังใกล้ลำโพงก่อนจุดอื่น ดังนั้นการติดตั้งลำโพงเสียงเรียกในจึงควรติดตั้งให้มากไว้ก่อนเป็นดีที่สุด
ลำโพงเสียงเรียกนอก



เครื่องเสียงสำหรับบ้านนกแอ่น


เครื่องเสียงประกอบด้วยเครื่องแอมป์(Amplifier) และเครื่องเล่นCD หรือ DVD อ่าน Multimedia Card ได้หรือเลือกเครื่องเสียงแบบตัวแอมป์แล้วมีช่องเสียบ USB / SD CARD ได้ เครื่องแอมป์(Amplifier) ควรเลือกซื้อตัวที่ Watts สูงๆเพราะต้องใช้ขับลำโพง Tweeter จำนวนมาก เลือกซื้อเครื่องที่ใช้งานหนักได้ ซื้อเครื่องที่ผลิตในเมืองไทยดีที่สุด ไม่แพง อะไหล่หาง่าย ส่วนเครื่องเสียงควรเลือกซื้อรุ่นใหม่ๆที่มีช่องเสียบ USB (USB Port) การเปิดเสียงเรียกนกแอ่นด้วยแผ่น CD นั้น เครื่องจะร้อนง่ายเพราะต้องใช้จานหมุนแผ่น และต้องใช้สายพาน สายพานเสื่อมเร็ว ทำให้เสียงที่ออกไม่เสถียร สู้อ่านจาก SD Card หรือ Thumb Drive รุ่นใหม่ๆไม่ได้ ท่านลองตรวจสอบราคาดูและคุยกับเจ้าของร้านที่สนิทสนม หรือสอบถามจากเพื่อนๆที่มีความรู้เรื่องเครื่องเสียง
การใช้งานเครื่องเสียงควรแยกเป็น 3 ชุด เสียงเรียกนอก 1 ชุด เสียงเรียกใน 1 ชุด เสียงนำอีก 1 ชุด และเนื่องจากบ้านนกแอ่นจะเปิดเสียงเรียกนอกและเสียงนำตั้งแต่เช้า 6:00 น. จนถึงค่ำ 20:00 น. ส่วนเสียงเรียกในจะเปิดตลอด 24 ชั่งโมง เครื่องเสียงจึงทำงานหนักมาก คำแนะนำคือ ควรมีเครื่องเสียง 2 ชุด ใช้สลับกันเครื่องละ 2 ชั่วโมง (โดยเฉพาะเสียงเรียกใน)โดยใช้ Digital Timer เป็นตัวเปิด-ปิด
นกแอ่นเป็นนกที่หูดีมาก ดังนั้นท่านจึงต้องให้เกียรติกับหูนกแอ่นด้วย นกแอ่น 1 คู่ มีมูลค่ามากสำหรับท่าน ให้ผลผลิตรังนกแอ่นกับท่านตลอดเวลาที่อยู่ในบ้านนกแอ่นของท่าน ใช้เครื่องเสียงที่ไม่รื่นหูเลย ไม่ดูถูกน้ำใจกันไปหน่อยหรือ ประหยัดอย่างไรก็ต้องให้เสียงออกมาเยี่ยม ขอให้ทุกท่านโชคดีในการเลือกซื้อเครื่องเสียง
เสียงเรียกนกแอ่นหัวใจของความสำเร็จ (Swiftlet Chirp)

(New colony) อุณหภูมิและความชื้นเหมาะสม ปราศจากศัตรูของนกแอ่นทั้งปวง ส่วนเสียงเรียกในใช้สำหรับกล่อมและเชิญชวนให้นกแอ่นพักอาศัย มีเสียงนกแอ่นจู๋จี๋และเสียงลูกนกแอ่นเป็นหลัก
เสียงเรียกนกแอ่นส่วนใหญ่จะอัดลงแผ่น CD ความจุเต็มแผ่นประมาณ 700 MB เล่นได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ขายแผ่นละประมาณ 500-2,500 บาท ปัจจุบันมีบันทึกลง Memory drive ชนิดต่างๆเพื่อให้เล่นได้นานหลายชั่วโมงตามที่ต้องการ และขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่องเสียงที่เลือกใช้ ในประเทศไทยหาซื้อยาก มีชนิดเสียงให้เลือกน้อยและราคาแพง สั่งซื้อทางWebจากประเอินโดนีเซียหรือมาเลเซียจะถูกกว่า แต่ถ้าให้ง่ายโทรศัพท์มาคุยกับผมดีที่สุด
ช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่น



การกำหนดช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นหากยึดตามหลักของการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ ก็จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นอยู่ทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก เพราะแสงอาทิตย์จะส่องเข้าสู่บ้านนกแอ่นได้ รูปแบบของช่องทางเข้า-ออก จึงควรอยู่ทางทิศเหนือและทิศใต้ แต่นี่ก็ไม่ใช่กฎเกณฑ์ข้อบังคับหากทิศเหนือและทิศใต้มีสิ่งกีดขวางทางเข้า-ออก เช่น มีตึกสูงบังอยู่ ด้านที่เป็นช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นควรมีพื้นที่ว่าง ไม่มีสิ่งกีดขวาง เพื่อให้นกแอ่นสามารถบินเล่นได้
วิธีแก้ไขสำหรับบ้านนกแอ่นคือ การต่อเติมอาคารขึ้นไปบนพื้นชั้นบนสุดของอาคารเพื่อทำเป็นช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่น เรียกว่าช่องทางเข้า-ออกแบบ "กรงสุนัข" ช่องทางเข้า-ออกแบบนี้จะลดปริมาณแสงสว่างที่จะเข้าสู่บ้านนกแอ่นได้มากกว่าแบบหน้าต่าง และได้พื้นที่ตีไม้รังเพิ่มขึ้น แต่เวลานกแอ่นบินเข้าจะต้องบินมุดลงช่องทางเข้าบนพื้นอีกทีหนึ่ง ถามว่าแบบไหนดีที่สุดสำหรับบ้านนกแอ่น อันนี้ตอบยากครับ เพราะทั้ง 2 แบบต่างก็มีตัวอย่างของบ้านนกแอ่นที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเป็นตัวอย่างให้เห็นอยู่ ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับรูปทรงของอาคารที่จะดัดแปลงเป็นบ้านนกแอ่น หากเป็นบ้านนกแอ่นที่ออกแบบเพื่อสร้างขึ้นมาใหม่จะง่ายต่อการกำหนดช่องทางเข้า-ออก
ขนาดของช่องทางเข้า-ออกสำหรับบ้านนกแอ่นใหม่ควรมีขนาดที่เหมาะสมเพื่อให้ง่ายต่อการบินเข้า-ออก ขนาดที่ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านและหนังสือหลายเล่มแนะนำคือ 80 x 40 เซนติเมตร แต่ที่ต้องจำไว้คือ ช่องทางเข้า-ออกยิ่งใหญ่แสงสว่างยิ่งเข้าสู่ภายในบ้านนกแอ่นยิ่งมาก อุณหภูมิและความชื้นก็จะคุมยากขึ้น
ช่องทางเข้า-ออกควรจะอยู่ซ้าย ขวา หรือ ตรงกลาง ควรอยู่สูงขนาดไหน พื้นที่วงบินของนกแอ่นจะเป็นตัวกำหนดว่าช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นควรจะอยู่ซ้าย ขวา หรือ ตรงกลาง วงบินของนกแอ่นจะกว้างประมาณ 6 - 8 ฟุต ถ้าบ้านนกแอ่นของท่านกว้างประมาณ 4 - 5 เมตร ช่องทางเข้า-ออกไม่ควรอยู่ตรงกลาง ควรอยู่ด้านซ้ายหรือด้านขวา ขอบของช่องทางเข้า-ออกด้านที่ใกล้ผนังด้านในควรห่าง 50 เซนติเมตร โดยปกติเมื่อนกแอ่นบินอยู่ในบ้านนกแอ่นจะบินห่างผนังประมาณ 50 เซนติเมตร ดังนั้นเมื่อช่องทางเข้า-ออกอยู่ด้านซ้ายหรือด้านขวา โดยที่ขอบของช่องทางเข้า-ออกด้านที่ใกล้ผนังด้านในห่าง 50 เซนติเมตร จึงทำให้นกแอ่นบินเข้าสู่บ้านนกแอ่นได้สะดวก และสามารถทำวงบินได้เป็นธรรมชาติ ทำให้นกแอ่นรู้สึกสบาย ส่วนความสูงของช่องทางเข้า-ออก ขอบด้านบนของช่องทางเข้า-ออก ควรอยู่ที่ระดับห่างจากไม้ตีรัง 50 เซนติเมตร
หากท่านอ่านแล้วยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนไม่เข้าใจ ลองร่างแบบบ้านที่ท่านจะดัดแปลงทำเป็นบ้านนกแอ่น สแกนแบบบ้านแล้วเมล์มาให้ผมดู ผมจะกำหนดช่องทางเข้า-ออกให้พร้อมอธิบายเหตุผลว่าทำไมจึงต้องอยู่ตรงจุดนั้นๆ
ช่องทางเข้า-ออกควรจะอยู่ซ้าย ขวา หรือ ตรงกลาง ควรอยู่สูงขนาดไหน พื้นที่วงบินของนกแอ่นจะเป็นตัวกำหนดว่าช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นควรจะอยู่ซ้าย ขวา หรือ ตรงกลาง วงบินของนกแอ่นจะกว้างประมาณ 6 - 8 ฟุต ถ้าบ้านนกแอ่นของท่านกว้างประมาณ 4 - 5 เมตร ช่องทางเข้า-ออกไม่ควรอยู่ตรงกลาง ควรอยู่ด้านซ้ายหรือด้านขวา ขอบของช่องทางเข้า-ออกด้านที่ใกล้ผนังด้านในควรห่าง 50 เซนติเมตร โดยปกติเมื่อนกแอ่นบินอยู่ในบ้านนกแอ่นจะบินห่างผนังประมาณ 50 เซนติเมตร ดังนั้นเมื่อช่องทางเข้า-ออกอยู่ด้านซ้ายหรือด้านขวา โดยที่ขอบของช่องทางเข้า-ออกด้านที่ใกล้ผนังด้านในห่าง 50 เซนติเมตร จึงทำให้นกแอ่นบินเข้าสู่บ้านนกแอ่นได้สะดวก และสามารถทำวงบินได้เป็นธรรมชาติ ทำให้นกแอ่นรู้สึกสบาย ส่วนความสูงของช่องทางเข้า-ออก ขอบด้านบนของช่องทางเข้า-ออก ควรอยู่ที่ระดับห่างจากไม้ตีรัง 50 เซนติเมตร
หากท่านอ่านแล้วยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนไม่เข้าใจ ลองร่างแบบบ้านที่ท่านจะดัดแปลงทำเป็นบ้านนกแอ่น สแกนแบบบ้านแล้วเมล์มาให้ผมดู ผมจะกำหนดช่องทางเข้า-ออกให้พร้อมอธิบายเหตุผลว่าทำไมจึงต้องอยู่ตรงจุดนั้นๆ
เครื่องทำความชื้น (Humidifier)

เครื่องวัดอุณหภูมิและความชื้น



การเพิ่มความชื้นในบ้านนกแอ่น

การตีไม้รังแบบกล่องและตีไม้ปิดมุมกล่อง


การตีไม้รังแบบแถว


สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)